Custom Search

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

6 วิธีใช้ประโยชน์จาก Twitter

หากคุณเคยได้ยินคำนี้และยังสงสัยถึงประโยชน์ของทวิตเตอร์ (Twitter)? ซึ่งจริงๆแล้วมันมีมากไปกว่าแค่ใช้ดูว่าคนแปลกหน้ากินอะไรเป็นอาหารกลางวัน เพราะคุณสามารถติดตามข่าวด่วน ใช้เป็นช่องทางร้องเรียนไปถึงบริษัทผู้ผลิต หรือแม้แต่แชตกับคนดัง
ทวิตเตอร์มีแต่เรื่องไร้สาระ ทวิตเตอร์เป็นที่ให้คนใช้ยกหางบูชาตัวเอง และอื่นๆ อีกนานาสารพัดที่คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับโซเชียลเน็ตเวิร์กแห่งนี้ แต่จริงๆ แล้วทวิตเตอร์จะเป็นประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อถ้าคุณใช้งานเป็น และมองข้ามเรื่องที่หลายคนพูดไป (ซึ่งก็จริง เราไม่เถียง) เพราะโดยธรรมชาติของบริการแห่งนี้ จะเอื้อต่อการฝากข้อความสั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เหมาะสำหรับใช้เป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า หรือใช้ติดตามเหตุการณ์ที่คุณสนใจจากคนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ รวมไปถึงใช้ตามดูชีวิตของบุคคลที่คุณสนใจเป็นพิเศษ และนี่คือ 6 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้ทวิตเตอร์มีประโยชน์สำหรับคุณ

ติดตามข่าว
เว็บไซต์โดยส่วนใหญ่ยังถือเป็นแหล่งข้อมูลและแหล่งข่าวที่สมบูรณ์กว่า แต่ถ้าคุณต้องการตามข่าวเฉพาะเรื่องในแบบหายใจรดต้นคอ และสนใจแม้แต่รายละเอียดยิบย่อย ทวิตเตอร์จะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะคุณสามารถอ่านรายงานสดจากยูสเซอร์ของทวิตเตอร์คนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือสถานที่เกิดเหตุ เช่นกรณีเครื่องบินตกที่แม่น้ำฮัดสัน ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นก็จะโพสต์เล่าเรื่องราวที่พบเห็นไว้ในทวิตเตอร์ของพวกเขา (คอนเซ็ปต์ของทวิตเตอร์ก็คือ การบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันด้วยข้อความสั้นๆ ไม่เกิน 140 ตัวอักษรต่อหนึ่งอัพเดต)
นอกจากประชาชนคนธรรมดาแล้ว คุณยังสามารถติดตามทวิตเตอร์ของไซต์ข่าวอย่าง CNN (www.twitter.com/cnn หรือเรียกย่อๆ ว่า @CNN) ซึ่งจะโพสต์หัวข้อข่าวพร้อมกับลิงก์ไปยังเนื้อหารายละเอียด แต่เราชอบ @cnnbrk มากกว่า แม้จะไม่ได้เป็นทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของสถานีข่าวแห่งนี้ แต่ก็ดีตรงที่จะสรุปข่าวให้อ่านแล้วเข้าใจง่ายๆ ในประโยคเดียว ไม่ต้องตามลิงก์ไปอ่านอีก (เว้นแต่ว่าคุณสนใจรายละเอียด)
@NYTimes ก็เป็นอีกจุดที่คุณจะพบหัวข้อข่าวด่วนทุกชั่วโมง แถมด้วยทวิตเตอร์ของนักเขียนและของคอลัมน์ประจำในหนังสือพิมพ์ที่ทรงอิทธิพลฉบับนี้ ที่น่าสนใจอื่นๆ สำหรับเรื่องของข่าวก็จะมีอย่างเช่น @BreakingNewsOn, @nprnews, @weirdnews, @macrumors, @MarsPhoenix, @Astronautics และแน่นอนว่าพีซีแมกะซีนเองก็มีทวิตเตอร์รายงานข่าวในด้านเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน (@PCMag)

ช่องทางติดต่อกับบริษัทผู้ผลิต
การใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางให้บริการหลังการขายอย่างเต็มรูปแบบ อาจยังฟังดูไม่ค่อยเข้าทีเท่าไรสำหรับบริษัทส่วนใหญ่ อย่างน้อยก็จนกว่าบริการแห่งนี้จะมีสมาชิกเพิ่มอีก 10 ล้านราย อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน คุณสามารถใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางในการร้องเรียนได้ และเสียงของคุณก็จะดังไปถึงเจ้าของสินค้า เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Zappos, Starbucks, Whole Foods, JetBlue และอื่นๆ อีกมากมาย (มากมายจริงๆ) ล้วนแล้วแต่มีแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ให้คุณใช้ในการติดต่อ
ดังนั้นต่อจากนี้ไป ถ้าคุณมีเรื่องอยากร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ลองใช้กูเกิ้ลเสิร์ชชื่อของบริษัทเจ้าของสินค้า แล้วตามด้วยคำว่า Twitter ถ้าบริษัทดังกล่าวมีแอ็กเคานต์บนทวิตเตอร์ คุณก็จะพบในผลการค้นหาลำดับต้นๆ ที่สำคัญคือ พยายามเรียบเรียงเรื่องร้องเรียนของคุณให้กระชับได้ใจความ เพราะคุณต้องไม่ลืมว่าข้อความจะถูกจำกัดไว้แค่ไม่เกิน140 ตัวอักษร

ขอความช่วยเหลือ
เช่นเดียวกับบล็อกและฟอรัม ทวิตเตอร์คือสถานที่ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการถามคำถามที่คุณขี้เกียจค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือ (เช่น “มีใครว่างช่วยขนของย้ายบ้านวันศุกร์ไหม?”) ขอความคิดเห็น (“กล้วยแบบออร์แกนิกมีรสชาติดีกว่าหรือเปล่า?”) หรือขอคำแนะนำ (“ใส่แรมให้กับแมคบุ๊กใหม่เท่าไรดี?”) เป็นต้น
โอเว่น ริ้งเคิ้ล ผู้พัฒนาทวิตเตอร์บอกกับเราว่า ปัญหาที่คุณเคยใช้เวลาคิด 5 นาที อาจได้คำตอบออกมาภายในเวลา 10 วินาทีบนทวิตเตอร์ แต่นี่หมายถึงอย่างน้อยคุณต้องมีเพื่อนๆ ในชีวิตจริงตามดู (follow) ทวิตเตอร์ของคุณอยู่ และแน่นอนว่าถ้าจะให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุณก็ควรตามดูทวิตเตอร์ของเพื่อนด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

โปรโมตผลงานหรือบริษัทของคุณ
เช่นเคยคือ ทวิตเตอร์ไม่ใช่บริการแรกที่ให้คุณใช้ประโยชน์ในลักษณะนี้ แต่ด้วยธรรมชาติของตัวมันเอง ทำให้ทวิตเตอร์เป็นทางเลือกที่เหมาะมากสำหรับการโปรโมตผลงานหรือประชาสัมพันธ์บริษัทของคุณ ขอแค่คุณทำแบบไม่กระโตกกระตาก มีลิงก์ไปยังแอพพลิเคชันที่คุณเพิ่งเขียนเสร็จ หรือสินค้าตัวใหม่ของบริษัทบ้างในบางโอกาส ผสมผสานไปกับเรื่องราวอื่นๆ ของคุณ ถ้าเป็นไปได้ พยายามอย่าให้ลิงก์โปรโมตงานมีเกินกว่า 3 ลิงก์ต่อสัปดาห์ เพราะนั่นจะเป็นการยัดเยียดและทำให้คนที่ตามดูคุณรู้สึกไม่ดีเปล่าๆ หรือหนักๆ เข้าก็อาจไม่สนใจที่จะตามคุณอีก

ไม่ขาดการติดต่อกับเพื่อนฝูง
นอกจากดูเรื่องราวการใช้ชีวิตประจำวันของคนแปลกหน้าเพื่อความบันเทิงแล้ว ทวิตเตอร์ยังเป็นช่องทางโปรดที่เราชอบใช้เพื่อไม่ให้ขาดการติดต่อจากเพื่อนฝูง แค่เขียนข้อความบอกเล่าเรื่องราวสั้นๆ ในแต่ละวัน เพื่อนๆ ก็จะรู้ความเป็นไปของคุณ ว่ากำลังทุกข์หรือสุขแค่ไหน ในทางตรงกันข้าม คุณก็สามารถรู้ได้ว่ามีเพื่อนคนไหนเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่หรือเปล่า หรือคนไหนกำลังอยู่ในอารมณ์เศร้าและต้องการกำลังใจ ต้องการให้คุณไปหา นี่ยังไม่นับรวมถึงการใช้ชวนกินข้าว หรือชวนทำกิจกรรมอื่นๆ

พบคนดัง
ยูสเซอร์ชื่อดังของทวิตเตอร์ที่มีคนตามดูเป็นจำนวนมากบางรายอาจไม่สนใจข้อความที่คุณส่งไปถึง แต่ไม่ใช่กับเบรนท์ สปินเนอร์ (ดาราจากสตาร์เทร็ก) ซึ่งค่อนข้างเป็นมิตรทีเดียว เช่นเดียวกับดาราตลกอย่างสตีเฟ่น ฟราย หรือถ้าคุณมีไอดอลหรือฮีโร่ในดวงใจ ลองเสิร์ชหาทวิตเตอร์ของเขาเหล่านั้น แล้วติดตามดูว่า พวกเขาใช้ชีวิตอย่างไรจึงประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณอยากเข้าสังคมออนไลน์แห่งนี้ แต่ยังรู้สึกขัดๆ เขินๆ และก็ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี ลองดู 10 ทิปที่เราแนะนำในบทความนี้ เชื่อว่าน่าจะทำให้คุณใช้งานทวิตเตอร์ได้คล่องขึ้นราวกับว่าใช้งานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
1. ย่อ URL ให้สั้นลง
ในการใช้งานทวิตเตอร์ เรื่องหนึ่งที่คุณหนีไม่พ้นก็คือการแชร์ลิงก์ แต่เนื่องจากในแต่ละทวีต คุณเขียนข้อความได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษร ถ้า URL ที่คุณต้องการแชร์ยาวเหยียด ใช้บริการย่อ URL ให้สั้นลง เพื่อที่คุณจะได้มีพื้นที่สำหรับเขียนข้อความมากขึ้น ที่เราชอบก็อย่างเช่น tinyurl.com, is.gd, ow.ly และ bit.ly

2. RT = Retweet
ถ้าคุณพบทวีตที่ถูกใจ และต้องการก๊อบปี้ไปแปะ (paste) ไว้บนไซต์ของตัวเอง หรือที่ไหนก็ตาม คุณสามารถทำได้ไม่มีปัญหา ตราบใดที่คุณให้เครดิตกับผู้เขียนข้อความในทวีตนั้น ซึ่งโดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว จะใช้การใส่คำว่า RT แล้วตามด้วยชื่อทวิตเตอร์ของเจ้าของทวีต เช่นถ้าคุณนำทวีตของเราไปใช้ คุณก็ควรใส่คำว่า RT @PCMag ไว้น่าทวีตนั้น

3. ส่งเมสเซจส่วนตัว
ด้วยฟังก์ชัน Direct Messages ของทวิตเตอร์ คุณสามารถส่งข้อความส่วนตัวที่มีขนาดไม่เกิน 140 ตัวอักษรไปยังผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆ ได้ ลักษณะจะคล้ายกับอีเมล์ฉบับย่อ แต่มีข้อแม้ว่าคนที่คุณจะส่งข้อความถึงได้นั้น ต้องเป็นยูสเซอร์ที่ตามดู (follow) คุณเท่านั้น

4. ใช้สัญลักษณ์ @
ถ้าคุณต้องการอ้างถึง ให้เครดิต หรืออยากติดต่อกับผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆ ให้ใส่สัญลักษณ์ @แล้วตามด้วยชื่อทวิตเตอร์ของคนๆ นั้นไว้ในทวีตของคุณ ข้อความในส่วนดังกล่าว (@ยูสเซอร์เนม) ก็จะกลายเป็นลิงก์นำไปยังทวิตเตอร์ของยูสเซอร์รายที่ว่า และที่สำคัญคือ ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนั้นสามารถเห็นข้อความในทวีตนี้ของคุณด้วย ในทางตรงกันข้าม คุณก็สามารถเช็กได้ว่ามีใครอ้างถึงคุณในทวีตของพวกเขาบ้าง ด้วยการคลิกที่ @ยูสเซอร์เนมของคุณเองจากกรอบทางขวามือในหน้า Home

5. หาเพื่อนของคุณ
ถ้าคุณยังไม่รู้จะเริ่มต้นสังคมออนไลน์แห่งนี้อย่างไร ลองใช้ Search.twitter.com หาทวิตเตอร์ของเพื่อนคุณ ทวิตเตอร์ของคนดัง หรือของบริษัทที่คุณสนใจ เพื่อที่คุณจะได้ตามดู หรือถ้าคุณมีหัวข้อที่สนใจอยู่แล้ว ก็สามารถใช้หัวข้อนั้นเป็นคีย์เวิร์ดในการค้นหาได้เลย

6. เพิ่มโอกาสในการถูกพบให้กับทวีตของคุณ
ถ้าเรื่องที่คุณกำลังจะเขียนเป็นหัวข้อซึ่งอยู่ในกระแสความสนใจ (เช่นโอบาม่า ซีรีส์เรื่อง Lost หรืออื่นๆ) การใส่เครื่องหมาย # ไว้ข้างหน้าหัวข้อนั้น (เช่น #Lost) จะทำให้คนอื่นๆ พบทวีตของคุณได้ง่ายขึ้น และบางทีเขาเหล่านั้นก็อาจตามดูคุณต่อ ยกตัวอย่างเช่นกรณีของเครื่องบินตกที่แม่น้ำฮัดสัน #flight1549 ได้กลายมาเป็นแท็กยอดฮิต เช่นเดียวกับเป็นคีย์เวิร์ดที่ผู้คนจำนวนมากใช้ในการเสิร์ช

7. แชร์ภาพถ่าย
ผู้คนส่วนใหญ่ชอบที่จะแชร์ภาพของตัวเองให้กับคนทั้งโลกได้ดู และบางคนก็โด่งดังจากการเรื่องนี้ อย่างเช่นกรณีของจานิส คลุมส์ ซึ่งใช้ TwitPic โพสต์ภาพของเที่ยวบิน 1549 ไว้บนทวิตเตอร์ของเขาได้ก่อนใครเพื่อน เช่นเดียวกันคุณสามารถใช้ TwitPic รวมถึงอีกหลายๆ บริการที่ลักษณะคล้ายกันนี้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการอัพโหลดและโพสต์ภาพไว้บนทวิตเตอร์

8. ทวีตจากมือถือ
ทวิตเตอร์ให้คุณส่งข้อความตัวอักษรจากโทรศัพท์มือถือเพื่ออัพเดตทวีตของคุณ เช่นเดียวกับที่รับทวีตใหม่ของคนอื่นๆ ซึ่งคุณตามดูอยู่ได้ แต่ก่อนอื่นคุณต้องเข้าไปที่ Settings คลิกที่แท็บ Devices แล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ของคุณก่อน ในทางตรงกันข้าม ถ้าใช้ไปสักพักแล้วคุณรู้สึกว่าการรับทวีตของคนอื่นๆ บนโทรศัพท์มือถือ สร้างความรำคาญให้กับคุณมากกว่าการได้อัพเดตเรื่องราว คุณก็สามารถเข้ามายกเลิกได้จากในแท็บเดียวกันนี้

9. หาเดสก์ทอปไคลเอ็นต์ดีๆ มาใช้
ด้วยเดสก์ทอปไคลเอ็นต์อย่าง TweetDeck, Twhirl หรือ TwitterFox คุณสามารถรับทวีตและจัดให้เป็นหมวดหมู่หรือเป็นระบบระเบียบสำหรับการตามอ่านได้ ไคลเอ็นต์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากถ้าคุณตามดูทวีตของหลายคน และมีการปฏิสัมพันธ์โต้ตอบ รวมไปถึงใช้ฟังก์ชัน direct messages อยู่บ่อยๆ

10. ดาวน์โหลดโมบายไคลเอ็นต์
ถ้าคุณมีแบล็กเบอร์รี่ ไอโฟน หรือสมาร์ตโฟนอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือทำงานบนเครือข่าย 3G เราอยากแนะนำให้ดาวน์โหลดโมบายไคลเอ็นต์ของทวิตเตอร์มาใช้ เพราะจะช่วยให้คุณทำอะไรได้มากกว่าแค่ส่งข้อความที่เป็นเท็กซ์ ไคลเอ็นต์ที่น่าสนใจก็จะมีอย่างเช่น Twitterific, TwitterBerry, PocketTweets และ Twidroid เป็นต้น

เอชพีนำเสนอผลิตภัณฑ์ Deskjet Ink Advantage รุ่นใหม่ สำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กตามบ้าน (SOHO) และกลุ่มธุรกิจขนาดย่อย (Micro-Business)

เครื่องมือคำนวณออนไลน์แบบใหม่ทำให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย (หรือคำนวนค่าใช้จ่าย) ได้เอง
กรุงเทพฯ – 21 ตุลาคม 2552 – เอชพีนำเสนอเครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage ราคาประหยัด พร้อมเผยผลการวิจัยของ Spire Research and Consulting ที่แสดงให้เห็นว่า HP Deskjet Ink Advantage ช่วยให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดเล็กตามบ้าน (SOHO) และธุรกิจขนาดย่อย (Micro-Business) 1 สามารถลดค่าใช้จ่ายการพิมพ์ลงถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของแบรนด์อื่นๆ 2
นอกจากนี้ เอชพียังได้เปิดตัวเครื่องคำนวณแบบออนไลน์ (www.hp.com/go/learnaboutsupplies) เพื่อให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการใช้เครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage กับเครื่องพิมพ์ของแบรนด์อื่นๆ ทำให้ลูกค้าสามารถประเมินการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วยตนเอง และช่วยให้ลูกค้ามีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องพิมพ์โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในช่วงสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
โซลูชั่น Deskjet Ink Advantage สุดล้ำหน้านี้ทำให้ลูกค้าสามารถพิมพ์งานต่างๆ ได้ในราคาที่ถูกกว่าการใช้เครื่องพิมพ์ HP Deskjet รุ่นอื่นๆ 3 โดยมีค่าใช้จ่ายต่อแผ่นอยู่ที่ 0.53 สตางค์ สำหรับเอกสารขาวดำ และ 1.28 สตางค์สำหรับเอกสารสี 4 โซลูชั่นการพิมพ์นี้ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางตั้งแต่มีการเปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นธุรกิจตามบ้านและธุรกิจขนาดย่อยได้ตั้งเป้าที่จะลดค่าใช้จ่ายไปพร้อมๆ กับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยในระยะเวลาเพียงหกเดือนหลังจากเปิดตัวโซลูชั่น HP Deskjet Ink Advantage ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของเอชพีในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.02 ในเครื่องพิมพ์ประเภทออลอินวัน อิงค์เจ็ท (A4) ที่มีราคาตั้งแต่ 2,900 บาทขึ้นไป 5
เครื่องพิมพ์ Deskjet Ink Advantage และ Deskjet Ink Advantage All-in-One K209a ทำงานร่วมกับตลับหมึกพิมพ์สีดำและหมึกพิมพ์สามสีรุ่น HP 703 ที่มีราคาประหยัดเพียง 320 บาท/ตลับ ทำให้เครื่องพิมพ์สองรุ่นนี้มีความประหยัดและมีประสิทธิภาพเมื่อใช้พิมพ์งานปริมาณมากเป็นประจำ ด้วยคุณภาพและความไว้วางใจได้ของตลับหมึกพิมพ์แท้เอชพีในราคาประหยัด ลูกค้าจึงไม่ต้องพิจารณาเลือกใช้ตัวเลือกรุ่นอื่นๆ หรือระบบการพิมพ์ของแบรนด์อื่นๆ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย
นางสาววริยา อุดมศิริ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทและเว็บโซลูชั่นส์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันนี้ ถือเป็นการต่อยอดความเป็นผู้นำของเอชพีในการนำเสนอทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าให้แก่ลูกค้า ด้วยโซลูชั่นการพิมพ์ที่วางใจได้และมีสมรรถนะสูงทั้งช่วยประหยัดเงินโดยไม่ต้องเสียคุณประโยชน์ในด้านอื่นๆ เมื่อเลือกใช้ HP Deskjet Advantage ลูกค้ากลุ่มธุรกิจตามบ้านและธุรกิจขนาดย่อยจะสามารถลดค่าใช้จ่ายการพิมพ์ของพวกเขาได้มากถึงร้อยละ 70 2 เมื่อเทียบกับระบบการพิมพ์แบบสี่สีจากแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ อีก 3 ราย”
งานวิจัยจาก Spire Research and Consulting พิสูจน์ความประหยัดอย่างยิ่ง
งานวิจัยของ Spire Research and Consulting ที่ว่าจ้างโดยเอชพีพบว่า HP Deskjet Advantage ช่วยลูกค้าประหยัดค่าหมึกพิมพ์ได้มากถึงร้อยละ 50 เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในสี่ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (อินเดีย อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย) 1 Spire ทำการประเมินโดยใช้ข้อมูลราคาที่พบได้ทั่วไปเพื่อให้การวิจัยมีความถูกต้องแม่นยำและยุติธรรม โดย Spire ประเมินค่าใช้จ่ายต่อหน้าของเครื่องพิมพ์ระบบสี่สีของบริษัทชั้นนำสามแห่งแล้วพบว่า HP Deskjet Ink Advantage นำเสนอความประหยัดมากกว่าแบรนด์อื่นๆ
“คนส่วนใหญ่เห็นราคาตลับหมึกพิมพ์ที่ถูกของคู่แข่งแล้ว มักจะสรุปเองว่าตลับหมึกพิมพ์เหล่านั้นช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปริมาณการพิมพ์ที่ได้จากตลับหมึกพิมพ์เหล่านั้นอาจน้อยกว่ามากและทำให้มีค่าใช้จ่ายต่อแผ่นสูง การวิจัยเกี่ยวกับการตั้งราคาผลิตภัณฑ์ในสี่ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเราพบว่าลูกค้าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายการพิมพ์ต่อแผ่นของพวกเขาลงได้เมื่อใช้ HP Deskjet Ink Advantage และตลับหมึกพิมพ์สมรรถนะสูงราคาถูกของเอชพี โดยจะสามารถประหยัดได้มากกว่าการใช้เครื่องพิมพ์แบรนด์อื่นๆ ในตลาด” ลีออน เพอร์เรอร่า ประธานบริหารของ Spire Research and Consulting กล่าว
เครื่องคำนวณออนไลน์เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย
เครื่องคำนวณแบบออนไลน์ (www.hp.com/go/learnaboutsupplies) แบบอินเตอร์แอ็คทีฟทำให้ลูกค้าสามารถคำนวณเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายจากการใช้งานระหว่างเครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage กับเครื่องพิมพ์ของแบรนด์อื่นๆ ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงสามขั้น [สี่ขั้นในอินเดีย] ลูกค้าจะพบว่าเครื่องพิมพ์ของพวกเขาจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเพียงใดเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ โดยคำนวณจากข้อมูลจากการวิจัยอิสระของ Spire ที่รวมไปถึงราคาเครื่องพิมพ์ ราคาผลิตภัณฑ์ซัพพลาย และค่าพิมพ์ต่อหน้า
นอกจากนี้ เครื่องคำนวณแบบออนไลน์ยังสามารถสร้างแผนภาพเพื่อเปรียบเทียบเครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage กับเครื่องพิมพ์แบรนด์อื่นๆ ของคู่แข่ง 2 ทำให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจตามบ้านและธุรกิจขนาดย่อยสามารถเห็นถึงค่าใช้จ่ายเมื่อใช้เครื่องพิมพ์ไปเป็นเวลานาน และแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเมื่อไหร่จะถึงจุดคุ้มทุน
สำหรับประเทศไทย: การศึกษาวิจัยภายในแสดงให้เห็นว่าลูกค้าที่ใช้เครื่องพิมพ์ Deskjet Ink Advantage สามารถไปถึง “จุดคุ้มทุน” ได้ภายในเวลาเพียงหกเดือน โดยคำนวณจากการตั้งสมมติฐานปริมาณการใช้ที่ 150 หน้าต่อเดือน (ห้าหน้าต่อวัน) เมื่อพ้นจุดคุ้มทุนไปแล้ว ลูกค้าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 5,000 บาทถึง 10,000 บาท เมื่อใช้ HP Deskjet Ink Advantage เป็นเวลานานสามปี 7 ลูกค้าสามารถค้นพบได้ว่าพวกเขาจะสามารถประหยัดได้เท่าใดโดยใช้เครื่องคิดเลขออนไลน์นี้
อีกไม่นานผู้ค้าปลีกจะสามารถช่วยให้ลูกค้าของพวกเขาประเมินความประหยัดที่โซลูชั่น HP Deskjet Ink Advantage มีให้มากกว่าเครื่องพิมพ์ของแบรนด์อื่นๆ ที่วางขายในร้านด้วยกัน โดยผู้ค้าปลีกจะสามารถใช้เครื่องคำนวณออนไลน์นี้ และทำแผนภาพเปรียบเทียบได้
นางสาววริยา กล่าวว่า “ลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อยต่างก็ให้การตอบรับอย่างดียิ่งต่อ HP Deskjet Ink Advantage เพราะพวกเขาต้องการลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ใช้ทางลัดที่ลดประสิทธิภาพงานพิมพ์ เอชพีได้เติมเต็มความต้องการของลูกค้าด้วย Deskjet Ink Advantage และเราหวังว่ายอดขายของโซลูชั่นอันล้ำหน้านี้จะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ที่มีรายงานการวิจัยของบริษัทอื่นเป็นเครื่องยืนยันความประหยัด”
ระบบการพิมพ์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการทำงานที่มีคุณภาพและสมรรถนะสูง
นอกจากจะนำเสนอความคุ้มค่าอย่างยิ่งแล้ว เครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage ยังนำเสนอคุณภาพ ความไว้วางใจได้ และความสะดวกสบาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังจากเอชพี เครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage Printer K109a (ราคา 2,900 บาท) ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานโดยการสร้างสรรค์เอกสารที่มีข้อความคมชัดและภาพที่มีสีสันสดใส โดยสามารถพิมพ์ได้เร็วถึง 28 หน้าต่อนาทีสำหรับเอกสารขาวดำ และ 21 หน้าต่อนาทีสำหรับเอกสารสี ดีไซน์ที่สวยงามของเครื่องพิมพ์นำเสนอรูปลักษณ์ที่สุภาพและทันสมัย เหมาะสำหรับบ้านหรือสำนักงานทุกแห่ง ทั้งยังมีดีไซน์สวยงาม เล็กกระทัดรัด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวางบนโต๊ะหรือในพื้นที่แคบ
เครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage All-in-One K209a (ราคา 3,900 บาท) รวมคุณสมบัติเช่นเดียวกับเครื่องพิมพ์รุ่น K109a แต่เพิ่มสมรรถนะความเร็วที่สูงกว่า และฟังก์ชั่นการถ่ายเอกสารและสแกน เพื่อทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เต็มที่ โดยสามารถพิมพ์และถ่ายเอกสารได้เร็วถึง 29 หน้าต่อนาทีสำหรับเอกสารขาวดำ และ 23 หน้าต่อนาทีสำหรับเอกสารสี 8 จึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างเต็มที่ พร้อมคุณสมบัติการสแกนคุณภาพสูงด้วยความละเอียดสูงถึง 1,200x2,400 และระดับสีแบบ 48-bit 9 ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บไฟล์ดิจิตอล
ตลับหมึกพิมพ์รุ่น HP 703 Black และหมึกพิมพ์สามสีที่มีสมรรถนะสูง สามารถพิมพ์เอกสารสีดำได้มากถึง 600 หน้า และพิมพ์เอกสารสีได้ถึง 250 หน้า 10 ทั้งยังมีเทคโนโลยีหยดหมึกคู่ของเอชพีที่ช่วยให้การพิมพ์ภาพกราฟฟิกมีความละเอียดสูง และทำให้ข้อความคมชัดระดับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ และสามารถจัดเก็บได้นาน
เครื่องพิมพ์เหล่านี้เริ่มวางขายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ ที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการพิมพ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ HP Eco Solutions เครื่องพิมพ์เหล่านี้ยังได้รับตรารับรอง ENERGY STAR® ช่วยลดขยะด้วยซอฟต์แวร์ Smart Web Printing 11 และมาพร้อมกับโหมดการพิมพ์แบบประหยัดกระดาษ อีกทั้งยังมีตรา HP Eco Highlights ที่บ่งถึงคุณสมบัติข้อดีต่างๆ เช่นการประหยัดพลังงานและความสะดวกของการรีไซเคิล
1 กลุ่มธุรกิจสำนักงานขนาดเล็กและสำนักงานตามบ้าน (SOHO: small office/home office) และกลุ่มธุรกิจขนาดย่อย (micro-business) นั้นหมายถึงบริษัทที่มีพนักงานตั้งแต่ 1 ถึง 9 คน
2 จากการวิจัยของ SPIRE ที่ได้รับการว่าจ้างโดยเอชพี เครื่องพิมพ์ประเภท inkjet AiOs ส่วนใหญ่ที่ราคาต่ำกว่า 199 เหรียญสหรัฐฯ ที่วางขายในอินเดีย อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ Deskjet Ink Advantage พร้อมด้วยตลับหมึกดำรุ่น HP703 พบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.hp.com/country/halfyourprintcosts
3 เมื่อเปรียบเทียบตลับหมึกดำรุ่น HP703 กับตลับหมึกดำรุ่น HP60A โดยประเมินจากราคาขายปลีกและปริมาณการพิมพ์ขาวดำและสีที่ผู้ผลิตได้แจ้ง ณ เดือนธันวาคม 2552 ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างออกไป
4 ต้นทุนการพิมพ์ต่อหน้า (Cost-per-page: CPP) ที่ได้จากตลับหมึกรุ่น F735 และรุ่น HP703 และราคาตามท้องตลาดในเอเชียแปซิฟิกและปริมาณการพิมพ์ขาวดำและสีที่แจ้งไว้ ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างออกไป
5 จากรายงาน IDC WW Quarterly Hardcopy Peripherals Tracker Report - 2009Q2 Release เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มเครื่องพิมพ์ประเภท Inkjet AiO ที่มีราคา 80 เหรียญสหรัฐฯ และสูงกว่าที่วางขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2552
6 ราคาตามท้องตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ราคาจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลง
7 การคำนวณจุดคุ้มทุนและการประหยัดค่าใช้จ่ายวัดจากการเปรียบเทียบระหว่าง HP Deskjet Advantage กับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของแบรนด์คู่แข่งชั้นนำอื่นๆ โดยใช้ตลับหมึกสมรรถนะสูงในการพิมพ์ห้าหน้าต่อวัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาไปที่ http://www.hp.com/country/halfyourprintcosts
8 หลังจากการพิมพ์หน้าแรก พบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hp.com/go/inkjetprinter
9 สามารถปรับความละเอียดในการพิมพ์สีได้สูงสุดถึง 4,800 x 1,200 dpi เมื่อสั่งพิมพ์จากเครื่องคอมพิวเตอร์บนกระดาษบางรุ่น และถาดเข้ามีความละเอียดอย่างน้อย 1,200 dpi
10 ตัวเลขโดยเฉลี่ยตามมาตรฐาน ISO/IEC 24711 หรือตามระเบียบวิธีการทดสอบและการพิมพ์อย่างต่อเนื่องของเอชพี ทั้งนี้ปริมาณการพิมพ์ในสถานการณ์จริงอาจมีผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของหน้าที่พิมพ์และปัจจัยอื่นๆ หมึกบางชนิดที่อยู่ในตลับหมึกที่มาพร้อมกับเครื่องพิมพ์นั้นจะถูกใช้เพื่อเริ่มการใช้งานเครื่องออลอินวัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาไปที่ www.hp.com/go/learnaboutsupplies
11 ต้องมี Microsoft Internet Explorer 6.0 - 8.0

Netbook "คีย์ลัด-ประหยัดไฟ"

Netbook "คีย์ลัด-ประหยัดไฟ"

ช่วงที่ผ่านมามีคำถามเกี่ยวกับการใช้เน็ตบุ๊กบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเทคนิคการใช้งานที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานในแบตเตอรี่ได้นานที่สุด ซึ่งวันนี้ผมมีทิปในการใช้คีย์ลัด เพื่อลด หรือปิดฟังก์ชันการทำงานที่กินไฟเป็นอันดับต้นๆ ของเน็ตบุ๊กมาฝากกันครับ
เน็ตบุ๊กส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับฟังก์ชันคีย์ (Function Key) ที่สามารถใช้งานร่วมกับปุ่ม Ctrl เพื่อปรับแต่งการทำงานของเครื่องได้ ซึ่งคีย์ลัดตัวแรกที่นำมาฝากนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานจากหน้าจอแสดงผลได้ นั่นก็คือ Ctrl+F5 เมื่อกดปุ่มนี้แสงสว่างที่หน้าจอเน็ตบุ๊กจะลดลง โดยเพียงแค่กด 1 - 2 ครั้ง คุณจะเห็นเวลาการใช้งานที่เหลือของแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากค่าตั้งความสว่างของจอที่โรงงานมักจะเป็นค่าสูงสุด เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความสว่างสดใส ในขณะที่ความเป็นจริงคุณไม่ได้ต้องการความสว่างมากขนาดนั้น ที่สำคญมันเป็นตัวการที่ทำให้แบตฯหมดเร็วอีกด้วย
ส่วนคีย์ลัดอีกอันหนึ่งที่นำมาฝากกันจะใช้สำหรับปิด WLAN เมื่อเวลาที่ไม่ได้ใช้เน็ตไร้สาย นั่นก็คือ Ctrl+F11 ซึ่งเป็นคีย์ลัดทีพบในเน็ตบุ๊กส่วนใหญ๋ โดยเมื่อต้องการใช้เน็ตไร้สายก็กดปุ่มนี้อีกครั้ง นับว่าเป็นคีย์ลัดที่สะดวกมาก นอกจากนี้มันยังใช้ควบคุมการเปิดปิด Bluetooth ด้วยในตัว ซึ่งฟังก์ชันการเชื่อมต่อไร้สายทั้งสองเทคโนโลยีนี้จะสวาปามพลังงานของแบตเตอรี่แบบไม่เกรงใจ ดังนั้น ทุกครั้งที่นึกได้ว่า กำลังใช้เน็ตบุ๊กทำงานที่ไม่ต้องใช้เน็ต ก็รีบกดคีย์ Ctrl+F11 เพื่อปิดฟังก์ชันดังกล่าวทันที เพียงแค่นี้ คุณก็มีแบตฯ เหลือใช้กลับมาอีกตรึม ที่สำคัญ การเปิดฟังก์ชันไร้สายทิ้งไว้ โดยไม่ได้ใช้งาน ยังเท่ากับการเป็นการปิดประตูรอให้แฮคเกอร์ได้มีโอกาสเจาะระบบเข้ามาเดินเล่นในเครื่องของเราอีกด้วย...

จะซื้อ Webcam สักตัว ต้องดูอะไรบ้าง



จะซื้อ Webcam สักตัว ต้องดูอะไรบ้าง

ปัจจุบัน มีกล้องเว็บแคมวางขายอยู่หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ถ้าคุณผู้อ่านไม่มีหลักในการเลือกซื้อที่ถูกต้องแล้ว ก็อาจจะถึงขั้นมึนตึ๊บ ตัดสินใจไม่ถูกไปเลยก็ได้



ปัจจุบัน มีกล้องเว็บแคมวางขายอยู่หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ถ้าคุณผู้อ่านไม่มีหลักในการเลือกซื้อที่ถูกต้องแล้ว ก็อาจจะถึงขั้นมึนตึ๊บ ตัดสินใจไม่ถูกไปเลยก็ได้

ปัจจัยอย่างแรกก็คือราคา

เว็บแคมราคาถูกย่อมเรียกความสนใจจากผู้ซื้ออย่างเราได้มากอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจไปครับ เพราะนอกจากราคาแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่ทำให้เราต้องคิดหนักเหมือนกัน เพราะว่ากล้องเว็บแคมราคาถูกหรือแพงบางรุ่นนั้นอาจจะเหมือนกันเลยก็ได้ เพียงแต่ให้อุปกรณ์มาแตกต่างกัน เช่น กล้องยี่ห้อ A ทำรุ่น X กับรุ่น Y ออกมา แต่ปรากฏว่าหน้าตากล้องต่างกันเล็กน้อย ส่วนราคานั้นต่างกันครึ่ง ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่ากล้องราคาแพงกว่าจะดีกว่าเสมอไป เพราะว่าตัวกล้องอาจจะไม่แตกต่างกันเลยก็ได้ แต่ความแตกต่างอยู่ที่อุปกรณ์เสริมที่ให้มาเช่นไมโครโฟน และซอฟต์แวร์ และเจ้าซอฟต์แวร์ที่ให้มานี่เองที่อาจจะเป็นตัวทำให้ราคาอุปกรณ์ทั้งชุดสูงขึ้นก็ได้

มาดูที่ตัวกล้อง

สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อ คือดูว่าชนิดของเซ็นเซอร์ที่ใช้ในตัวกล้องนั้นเป็นแบบใด โดยมากกล้องเว็บแคมในท้องตลาดจะใช้เซ็นเซอร์แบบเดียวกันหมด คือแบบ “CMOS” ซึ่งให้คุณภาพของภาพที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ในรุ่นใหม่ๆ ที่มีราคาสูง บางรุ่นเริ่มหันไปใช้เซ็นเซอร์แบบ CCD กันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเซ็นเซอร์แบบ CCD นั้นให้ความคมชัดมากกว่า และยังไวต่อแสงมากกว่าอีกด้วย (สามารถมองเห็นภาพได้ชัด แม้จะตั้งกล้องเอาไว้ในที่ที่มีแสงสว่างไม่มาก) ลองมาดูเฉพาะเซ็นเซอร์แบบ CMOS กันอย่างเดียวก่อนครับ เซ็นเซอร์นี้มีความสำคัญสูงมาก เพราะว่าเป็นหน่วยรับแสงและนำมาประมวลผลต่อเพื่อสร้างภาพขึ้นมาบนจอภาพ หากหน่วยรับแสงทำงานได้ไม่ดีแล้ว คุณภาพก็คงไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ ปกติแล้วกล้องมักจะใช้เซ็นเซอร์ CMOS ที่มีความละเอียดอยู่ที่ 640X480 พิกเซล ซึ่งถือเป็นความละเอียดมาตรฐานที่กล้องเว็บแคมควรจะทำได้ แต่ในปัจจุบันก็ยังมีการผลิต กล้องเว็บแคมที่มีฟังก์ชันอื่นเพิ่มเติม ซึ่งกล้องเว็บแคมกลุ่มนี้อาจจะมีความละเอียดสูงถึง 1.3ล้านพิกเซล หรือว่าขนาด 1280X1024 พิกเซลเลยทีเดียว

เลนส์ที่ใช้ ก็สำคัญ

ก่อนที่ภาพจะตกกระทบกับฉากรับหรือว่า CMOS เซ็นเซอร์นั้นจะต้องผ่านเลนส์เสียก่อน ตัวเลนส์จะดีหรือไม่นั้น บอกได้เลยครับว่ายูสเซอร์ระดับเรานั้นไม่มีโอกาสดูออก แต่สิ่งที่เห็นความแตกต่างกันได้ชัดก็คือเลนส์ที่ใช้มีขนาดเท่าใด บางตัวอาจจะใช้เลนส์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1/4 นิ้ว แต่บางตัวใช้เลนส์ขนาดใหญ่ครึ่งนิ้ว แน่นอนว่าเลนส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าย่อมได้เปรียบในเรื่องภาพอยู่บ้างเหมือนกัน นอกจากนั้นแล้ว ถ้าหากสามารถปรับโฟกัสได้เองแล้วก็ยังสามารถกำหนดระยะชัดของภาพได้อีกด้วย ซึ่งกล้องเว็บแคมที่ไม่สามารถปรับระยะโฟกัสที่หน้าเลนส์ได้นั้น จะเป็นเลนส์แบบ Focus Free ซึ่งมีการกำหนดระยะโฟกัสเอาไว้แล้ว แต่โอกาสผิดเพี้ยนก็สามารถเกิดขึ้นได้ แม้จะน้อยมากก็ตาม ซึ่งถ้าผิดเพี้ยนแล้วเราก็จะไม่สามารถปรับโฟกัสให้ชัดดังเดิมได้อีก อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือความไวของตัวกล้องในการจับภาพ ซึ่งถ้าเป็นกล้องรุ่นเก่าๆ บางรุ่นมีความเร็วในการบันทึกภาพหรือเฟรมเรตอยู่ที่ 15 ภาพต่อวินาที (fps) ซึ่งอาจจะยังช้าไป แต่ส่วนใหญ่แล้วกล้องในปัจจุบันมักจะรองรับการทำงานที่ 30 fps กันทั้งหมดแล้ว ซึ่งก็เพียงพอที่จะจับภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติ

รูปลักษณ์ น่าใช้แค่ไหน

นอกจากนั้นแล้ว ปัจจัยอื่นๆที่ทำให้กล้องแต่ละตัวมีความแตกต่างกันก็คือ การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูสวยงามเข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือการวางตำแหน่งจุดยึดให้มั่นคงแข็งแรง บางรุ่นอาจจะวางไว้เฉยๆ ซึ่งก็เสี่ยงต่อการตกหล่นได้ง่าย แต่บางรุ่นก็ให้แท่นยึดที่ค่อนข้างมั่นคงแข็งแรงมาก และยังอาจจะมีปุ่มกดที่ออกแบบมาสำหรับการแคปเจอร์รูปได้ทันทีโดยไม่ต้องคลิ้กจากจอภาพทำให้สามารถบันทึกภาพได้สะดวกรวดเร็วตามที่ต้องการเลยทีเดียว แต่ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะว่ากล้องเว็บแคมบางรุ่นยังพวกท้ายมาด้วยความสามารถอื่น ๆ เช่นมีชุดสื่อสารไร้สายที่สามารถนำไปติดแยกเอาไว้ไกลจากคอมพิวเตอร์ของเราได้เช่นกัน แต่แน่นอนว่าราคาแพงกว่ากล้องรุ่นปกติไม่น้อยเลยทีเดียว และอาจจะสามารถถอดออกจากแท่นที่วางไปใช้แทนกล้องดิจิตอลได้อีกด้วย ซึ่งความละเอียดที่สามารถนำไปใช้บันทึกภาพได้นั้นมีตั้งแต่ 3 แสนพิกเซล ไปจนถึง 1.3 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว แต่สำหรับกล้องรุ่นที่ถอดไปใช้แทนกล้องดิจิตอลได้นั้น จะต้องดูก่อนว่ามีหน่วยความจำมาให้เท่าใด เพื่อคำนวณหาว่าตัวกล้องจะเก็บภาพได้สูงสุดกี่ภาพ หรือถ่ายคลิปวิดีโอได้ยาวนานเพียงใด เพราะกล้องเว็บแคมที่มีความสามารถขนาดนี้มักจะไม่สามารถถอดเปลี่ยนหรือใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มเข้าไปได้

สุดท้ายก็คือซอฟต์แวร์

ซอฟต์แวร์ที่ให้มาด้วยกันครับ อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้นแล้วว่าราคากล้องส่วนหนึ่งมาจากซอฟต์แวร์ที่ให้มาด้วยนี่ละครับ ถ้าหากเราใช้เพียงแค่ Netmeeting เพื่อพูดคุยเท่านั้น ก็คงไม่จำเป็นต้องซื้อกล้องที่ให้ซอฟต์แวร์อื่นๆ มาด้วย แต่อย่าลืมว่าซอฟต์แวร์ที่ให้มานั้นบางตัวมีความสามารถสูงเกินราคากล้องเลยทีเดียว แต่เมื่อขายมาพร้อมกับกล้องก็จะมีราคาถูกกว่าที่เราจะไปซื้อแยกต่างหาก เช่น ซอฟต์แวร์ จากค่าย Real ที่แถมมาให้ด้วยกันนั้นหากซื้อแยกบางครั้งอาจจะมีราคาเทียบเท่ากับซื้อกล้องเว็บแคมเลยก็ได้ หรือในส่วนของซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ผมได้กล่าวไปในตอนต้น เช่น Webcam Watchdog, VideoSpy หรือ Watcher นั้นกล้องบางรุ่นอาจจะแถมซอฟต์แวร์ประเภทนี้มาให้ด้วยเลย แม้ว่าจะไม่ใช้ซอฟต์แวร์ที่กล่าวมาก็ตาม แต่ก็สามารถทำงานได้ไม่แตกต่างกันมากนัก

ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยพื้นฐานในการเลือกซื้อที่เราควรพิจารณา แต่ผมเชื่ออยู่สิ่งหนึ่งว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อก็คือปัจจัยในเรื่องราคามากกว่าส่วนอื่นๆ ทั้งหมด

Windows Live 2009 ไฉไลกว่าเดิม พร้อมคู่หูที่มิอาจพลาดได้


หลังจากที่ทางไมโครซอฟท์เองได้เปิดให้มีการติดตั้ง Windows Live Beta 9 มาไม่นานและมีเสียงสะท้อนจากผู้ใช้มาเป็นเวลาพอสมควร และตอนนี้ก็มาถึงตัวจริงที่ออกมาให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ทำงานใหม่อีกครั้งกับรุ่น 2009 ที่ดูท่าแล้วน่าจะดีกว่าตัวเบต้าอยู่พอสมควร และหลังจากที่ผู้ใช้อย่างกระผมเองนั้นก็ได้ใช้แต่ตัวเวอร์ชัน 8.6 เป็นระยะเวลานานแล้ว ก็เห็นทีว่าควรจะได้เวลาที่จะอัพเกรดมาใช้รุ่นใหม่กับเขาบ้าง

สำหรับ Windows Live 2009 สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://download.live.com เมื่อเข้ามาที่หน้าเว็บนี้แล้วให้กดปุ่ม ดาวน์โหลด จะเป็นการโหลดตัวติดตั้งแบบออนไลน์ (โหลดไปติดไป) มา แต่ถ้า Cancel ไปก่อนแล้วกดปุ่ม ลองอีกครั้ง จะเป็นการโหลดตัวติดตั้งแบบรวดเดียวจบขนาด 125 เมกะไบต์ ที่จะต้องใช้เวลาในการรอสักเล็กน้อย เมื่อได้ตัวติดตั้งแล้วนั้นก็ให้ดำเนินการติดตั้งได้เลย ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนว่า สำหรับ Windows Live 2009 จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งมากถึง 250 เมกะไบต์

เมื่อดาวน์โหลดเรียกร้อยก็ให้ติดตั้งโปรแกรมลงเครื่องได้ทันที จากนั้นจะมีตัวเลือกโปรแกรมที่ต้องการซึ่งการติดตั้งนั้นจะใช้เวลามากน้อยเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเลือกที่ต้องการ ซึ่งปกติก็สามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งทั้งหมด ที่น่าสนใจก็คือฟังก์ชันอย่าง ความปลอดภัยของครอบครัวซึ่งได้ติดตั้งมาในชุดนี้จะช่วยให้ผู้ปกครองนั้นสามารถดูแลเด็กๆ ไม่ให้เข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้อย่างครอบคุมมากยิ่งขึ้น (ดูเหมือนจะเป็นโปรแกรมตัวแสบสำหรับเด็กๆซะมากกว่า เอหรือว่าผู้ใหญ่ละเนี่ย) จากนั้นก็ดำเนินการติดตั้งได้เลย สำหรับ Movie Maker นั้นหมดสิทธิ์เลยหากใครใช้ Windows XP



หน้าตาของ Live ตัวใหม่ที่น่าใช้มากทีเดียว แต่ก็ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นกับตัวเบต้า แต่ถ้าเทียบกับ Windows Live 8.xx นั้นก็ถือได้ว่าสวยทีเดียว

หน้าต่างสนทนาเปลี๊ยนไป
เมื่อ Sign-in แล้วหน้าต่างสนทนาเปลี่ยนไปถ้าเคยชินกับเวอร์ชันเดิมต้องขอบอกว่าเวอร์ชันนี้ เปลี๊ยนไป แน่ ด้วยหน้าตาที่ย้ายภาพดิสเพลย์นั้นจากทางขวามือมาอยู่ทางซ้ายซะนี่ และกรอบของดิสเพลย์นั้น ยังรอบกรอบด้วยแถบสี ตรงนี้จะแสดงสถานะของเราได้ด้วย ไล่ไปตั้งแต่ เขียว ส้ม และ แดง นั่นก็หมายถึง ออนไลน์อยู่ สำหรับสีเขียว และสีส้มนั้นก็หมายถึง away และสุดท้ายสีแดงที่ดูจัดจ้าน หมายถึง Busy นั่นเอง แล้วอีกอย่างที่พบได้อย่างชัดเจนก็คือ ปุ่ม send หายไปไหน โอ๊ะๆๆ เอาแล้วสิ สำหรับใครที่เคยชินกับปุ่ม Send นั้น (สำหรับผมก็ชินเหมือนกัน) แล้วมันหายไปไหน ทางไมโครซอฟท์คงเห็นว่า มันเก่าไปแล้ว เลยตัดไปซะงั้น และสำหรับหน้าต่างหลักนั้น แถบไอคอนที่อยู่ด้านข้าง ย้ายกลับไปอยู่ด้านล่างแทน



สังเกตว่าขอบของ ดิสเพลย์นั้นสามารถเปลี่ยนสีได้ด้วยตามสถานะ

ระบบรักษาความปลอดภัยดีขึ้น
สำหรับใครก็ตามที่เปลี่ยนมาใช้ Live ใหม่ๆ คงจะรู้สึกรำคาญใจอยู่แน่ เพราะว่าแค่จะส่งไฟล์ธรรมดา ยังว่า ไม่ปลอดภัยซะงั้น จนไม่ยอมให้ส่งไฟล์นั้น (แม้ว่ารู้สึกรำคาญนิดๆ ก็คนจะส่งนะเว้ยเฮ้ย) อาการนี้จะเกิดขึ้นกับเครื่องที่ไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมสำหรับแอนติไวรัส แต่ก็มีทางเลือกว่าถ้าไม่ได้ติดตั้งนั้นจะเปิดโอกาสให้โหลด Live care เพื่อเป็นแอนติไวรัสในตัว ก็ดีครับ แต่มันช้าเหลือเกิน แนะนำว่าให้ติดตั้งแอนติไวรัสไว้ก่อนเป็นดี อันนี้รวมถึง ไฮเปอร์ลิงก์ด้วยนะครับจะขึ้นเตือนแต่ก็สามารถคลิกได้ตามปกติ แต่ถ้าไม่มีแอนติไวรัสติดตั้งอยู่ก็หมดสิทธิ์

แผนกติดตามพฤติกรรมเพื่อนๆ มีอะไรใหม่



หน้าจอ เค้าโครงสำหรับปรับแต่งค่าต่างๆ

จริงๆ แล้วฟังก์ชันนี้จะเรียกว่าเป็นฟังก์ชันสำหรับการสอดรู้สอดเห็นก็คงไม่ผิดนัก ฮะๆๆๆ เพราะฟังก์ชันนี้จะบอกว่าใครทำอะไรที่ไหน เมื่อไหร่ (เหมือนมีหน่วยสืบราชการลับติดตัว เพราะว่ามันจะรายงานทุกคนที่มีรายชื่ออยู่ในลิส) ไม่ว่าจะคุยกับใคร เข้าเว็บอะไร โพสต์รูปภาพไว้ที่ไหนจะรายงานให้เพื่อนๆ ได้รู้หมดไส้หมดพุงกันเลยทีเดียว ถ้าหากใครไม่ต้องการก็ปิดได้ ด้วยการเข้าไปที่ ตัวเลือก และเลือกที่ เค้าโครง คลิกเครื่องหมายถูกที่ แสดงรายการมีอะไรใหม่ ออกไป

แค่ก๊อปหรือวางก็แชร์ได้ดั่งใจ





แชร์ได้อย่างง่ายๆ

อีกหนึ่งลูกเล่นที่เรียกได้ว่าโดนใจอย่างที่คิด ก็คือเวลาที่คุณท่องเที่ยวไปในเว็บต่างๆ นั้นเจอภาพที่ถูกใจและอยากจะแบ่งปันให้เพื่อนจะทำได้อย่างไรจะก๊อบภาพมาไว้ที่เครื่องก่อนแล้วค่อยส่งหรือจะเอาลิงก์ให้เพื่อนไปโหลดเองก็ดูจะไม่โปรเอาซะเลย แต่ใน Live2009 นี้ลืมไปได้เลย เพียงแค่คลิกขวาที่ภาพ แล้วเลือก Copy แล้วจับมาวางใน ช่องการสนทนาได้เลย ถ้าเพื่อนใช้ Live2009 เหมือนกันรูปจะโผล่ ที่หน้าต่างของเพื่อนทันที ใครไม่รับก็ปฏิเสธไม่ได้แล้ว อ้อแล้วรูปที่ส่งนั้นจะเป็นขนาดเต็มจะย่อขยายก็ตามหน้าต่าง ระวัง ไฟล์ที่ส่งนั้นจะแสดงทันทีฉะนั้นหากอยู่ในที่สาธารณะ อาจจะเป็นเรื่องได้ คงได้งานเข้าก็คราวนี้

ความปลอดภัยของครอบครัวโปรแกรมตัวแสบสำหรับเจ้าตัวน้อย
ในเวอร์ชันนี้มีโปรแกรมที่ชื่อยาวๆ มาด้วยแถมดูแล้วยังเชยๆ ยังไงไม่รู้ ความปลอดภัยของครอบครัวนิยามง่ายๆ ก็คือ ICT ประจำบ้านนั่นเอง คุณกำหนดได้ว่าจะให้เด็กๆ ของคุณใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างไร คุณสามารถจำกัดการค้นหาบล็อก หรืออนุญาตเว็บไซต์ กำหนดว่าเด็กของคุณสามารถสื่อสารกับใครขณะใช้ Windows Live Messenger, Hotmail หรือ Space และตรวจดูว่าเขาเข้าชมเว็บไซต์ใดบ้าง*

สำหรับตอนนี้ได้รู้จักLive ตัวใหม่แล้ว จะว่าไปมีตัวหลักก็ต้องมีตัวเสริมที่จะขาดไม่ได้ก็คือ Live Plus ที่หลายๆ คนจะต้องหามาใช้แน่นอน ไม่รู้เป็นยังไง ผมเองก็ยังไม่เคยใช้สักครั้ง

MSGLIVEPLUS โปรแกรมเสริมคู่กาย Windows Live 2009
สำหรับ Windows Live Messenger 2009 แล้วต้องใช้รุ่นพิเศษครับ http://mirror1.msgpluslive.net/MsgPlusLive-479b.exe ซึ่งสามารถโหลดได้จากลิงก์นี้ นอกจากนี้ยังรองรับกับภาษาต่างๆ ซึ่งในนั้นมีภาษาไทยของเราด้วยเหมือนกัน สิ่งที่จำเป็นต้องมีก็คือ “Windows Live Messenger” และ Windows XP ขึ้นไป แต่แนะนำว่าวิสต้าดีกว่า และในเวอร์ชันสำหรับ 2009 นี้จะยังเป็นเบต้าเวอร์ชันอยู่



การค้นบันทึก

สำหรับใครก็ตามที่มีบันทึกอยู่มากเพราะมีเพื่อนเยอะนั้น Messenger Plus! นั้น ยอมที่จะให้คุณสามารถค้นหาบันทึกของคุณได้โดยตรงจากตัวอ่าน log ได้ทันที ด้วยการทำ index ของการสนทนาอัตโนมัติ นั่นเอง



สิ่งแรกที่ได้เห็นเมื่อคุณลง Plus! นั่นก็คือหน้าตาใหม่ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดจด พร้อมการวางตำแหน่งให้ดีขึ้น ซึ่งก็ยังใช้ไม่ถนัดเหมือนกัน

Skin ใหม่สร้างได้



รูปแบบนี้เป็นการเปิดโอกาสให้คุณสามารถเปลี่ยนหน้าตาของ Messenger Live ตามใจคุณ

ปรับปรุงการสนทนาให้ดีขึ้นด้วยการจัดการที่ดีกว่า



สำหรับการแชตแบบแท็บนั้นหลายคนคงจะยังไม่คุ้นนัก แต่ถ้าเคยลองท่องเว็บด้วย IE แล้วด้วยโปรแกรมเสริมหลายๆ* ด้วยทำให้การเปิดเว็บนั้นสามารถอยู่ในหน้าต่างเดียวกันได้ เพียงแต่เปิดแท็บของหน้าเพจใหม่เรื่อยๆ แล้วทำไมจึงทำอย่างนั้นไม่ได้กับ LIVE ซึ่งความสามารถนี้ก็ได้รวมไว้แล้วใน MSPlusLive เวอร์ชันใหม่นี้นั่นเอง

อีกหนึ่งฟังก์ชันที่ทำให้ Plus! ได้รับความนิยมยิ่งขึ้นก็คือ การใช้หลายๆ แอ็กเคาต์พร้อมๆ กัน เช่นอาจจะใช้แอ็กเคาต์หนึ่งเพื่อคุยงาน และยังมีอีก หนึ่งแอ็กเคาต์เพื่อใช้คุยกับเพื่อนๆ ก็สามารถทำได้เช่นกันซึ่งอันนี้ผมชอบแฮะ



สร้างความเป็นส่วนตัวที่แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้ใครอื่นมาสนใจข้อสนทนาเรานัก หรือใช้ตอนที่แอบเล่นในออฟฟิศแล้วไม่อยากให้เจ้านายเห็น หรือหัวหน้าเดินผ่านพอดี ก็สามารถซ่อนหน้าจอแชตของเราไว้ได้ทันที หากต้องการเรียกหน้าจอกลับมาก็ต้องใช้รหัสผ่านด้วย ถือว่า ปลอดภัยในระดับหนึ่งสำหรับคนที่ชอบแอบเล่นในเวลาทำงาน

นอกจากนี้ Plus เองยังมีความสามารถอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกการสนทนาในรูปแบบของ html หรือการจัดการรายชื่อ แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้ได้รู้จักกับโปรแกรมแชตสุดเก่งของเราได้แถมด้วยโปรแกรมเสริมประสิทธิ์ภาพที่ดูโดดเด่นในตอนนี้และต่อไป แต่ก็หวังว่าอย่าแชตกันเพลินจนลืมงานนะครับ เดี๋ยวงานจะเข้าเอาได้ นะครับ….

สรุปการใช้งาน : หลังจากได้ทำการติดตั้งแล้วนั้นสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้อย่างดีคือเมื่ออินเทอร์เน็ตที่ใช้ไม่มีความเสถียร ทำให้มีอาการหลุดได้เป็นระยะๆ และใช้ระยะเวลาในการเชื่อมต่อที่ค่อนข้างนาน แล้วยังมีอาการค้างบ้างเป็นระยะๆ นอกจากนี้ เมื่อมีการติดตั้ง Windows Live Messenger 2009 ยังมีปัญหาสำหรับการที่ Contact list นั้นหายได้ซึ่งปัญหานี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้ซึ่งจะเกิดขึ้นกับวินโดวส์บางชนิดได้เช่นกันจำพวกวินโดวส์ที่ได้รับการปรับแต่งมาแล้ว อาจจะเป็นปัญหาได้